วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เจ้าแม่แก่นจันทร์ ตำนานแห่งเทพเมืองราชบุรี

ในความเชื่อและศรัทธาของคนไทยนั้น มีความนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่หลายประเภท ชาวราชบุรีก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้คอยยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งเขาให้ความเลื่อมใสศรัทธามาช้านานนั่นก็คือ "เทพเจ้าแม่แก่นจันทร์"

ตำนาน "เจ้าแม่แก่นจันทร์" เล่ากันมาว่า ท่านเป็นเทพที่สถิตอยู่ในไม้แก่นจันทร์ ซึ่งเป็นไม้ที่มีกลิ่นหอม มีอายุนานนับร้อยปี จึงมีความศักดิ์สิทธิ์มาก โบราณว่าไว้ ต้นไม้ต้นใดที่มีแก่นสูงตั้งแต่ 1 คืบขึ้นไป จะมีวิมานของรุกขเทวดาสถิตอยู่ เพื่อคอยดูแลรักษาผู้ที่มากราบไหว้บูชา และมักจะเรียกชื่อของรุกขเทวดาประจำต้นไม้ตามชื่อของต้นไม้นั้น เช่น ต้นตะเคียนทองก็จะเรียกชื่อรุกขเทวดาว่า "เจ้าพ่อหรือเจ้าแม่ตะเคียนทอง" ดังนั้น "ไม้แก่นจันทร์" จึงมีผู้เลื่อมใสตั้งให้เป็น "เจ้าแม่แก่นจันทร์"

วามเป็นมาของ "เจ้าแม่แก่นจันทร์" ที่ชาวราชบุรีให้ความเคารพศรัทธานิยมมากราบไหว้ขอบารมีคุ้มครองนั้น มีมานานหลายสิบปี ศาลเจ้าแม่แก่นจันทร์ตั้งอยู่ใน อ.เมือง บริเวณใกล้เชิงเขาแก่นจันทร์ ตัวศาลสร้างเป็นแถวยาวชั้นเดียว แต่เดิมศาลเจ้าแม่เป็นศาลไม้เล็กๆ ตั้งตรงข้ามศาลหลังใหม่ที่เห็นในปัจจุบัน

จากตำนานที่เล่ากันต่อๆมา ความว่า เดิมทีเจ้าแม่องค์เดิมเป็นท่อนไม้แก่นจันทร์ แต่ภายหลังมีหญิงสาวไปเข้าฝันชาวบ้านคนหนึ่งบอกว่าไม่อยากอยู่ในสภาพขอนไม้แบบนี้อีกแล้ว อยากมีรูปร่างเป็นมนุษย์ ครั้งแรกชาวบ้านก็ไม่เชื่อไม่สนใจ เจ้าแม่จึงไปเข้าฝันชาวบ้านอีกหลายๆคน เมื่อฝันประหลาดตรงกันชาวบ้านจึงเริ่มเชื่อและได้ทำการแกะสลักไม้แก่นจันทร์ให้มีรูปร่างเป็นหญิงสาว

เมื่อแกะสลักเสร็จเรียบร้อยก็ทำพิธีอัญเชิญให้ขึ้นไปประดิษฐานในศาลไม้หลังเก่า แต่เจ้าแม่ก็มาเข้าฝันชาวบ้านอีกว่าที่ตั้งของศาลไม่ถูกทิศ ท่านต้องการให้ย้ายตัวศาลไปอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ชาวบ้านก็ยังไม่ย้าย เพราะการย้ายศาลค่อนข้างยุ่งยาก และเมื่อยังไม่ย้ายพวกลูกหลานชาวบ้านก็เริ่มปวดหัว ตัวร้อน ไม่สบายกันเป็นแถวๆ เป็นต่อๆกันไปทุกบ้าน และบริเวณที่ตั้งของศาล ซึ่งเป็นทางโค้งก็มักจะมีอุบัติเหตุรถราเฉี่ยวชนล้มคว่ำกันเป็นประจำ ชาวบ้านจึงอัญเชิญเจ้าแม่มาประทับทรง ท่านบอกว่าเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของภูตผีปีศาจ องค์ท่านไม่ได้ประทับอยู่ในศาลนานแล้ว ชาวบ้านจึงถามเจ้าแม่ว่าทำไมจึงทิ้งพวกเขาไป ท่านก็บอกว่าท่านไม่อยากทิ้งชาวบ้านไปหรอก แต่ท่านอยู่ที่ศาลนี้ไม่ได้ เพราะทิศทางที่ตั้งศาลไม่ถูกต้อง ท่านเคยบอกแล้วแต่ไม่มีใครเชื่อ ท่านจึงต้องไป แต่ถ้าตั้งศาลอย่างถูกต้องท่านก็จะกลับมาประทับอีก ต่อมาชาวบ้านจึงช่วยกันย้ายศาลของเจ้าแม่มาตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งเป็นที่ตั้งในปัจจุบัน

ความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่แก่นจันทร์ ไม่ใช่แค่จะแสดงให้ชาวบ้านรู้เห็นอยู่กลุ่มเดียวเท่านั้น ข้าราชการระดับผู้ใหญ่ใน จ.ราชบุรี ท่านหนึ่งก็เคยรู้เห็น และได้สัมผัสกับปาฏิหาริย์ขององค์เจ้าแม่มาแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นกับอดีตนายอำเภอเมืองของ จ.ราชบุรี เมื่อ พ.ศ.2538 ขณะที่ท่านมาประจำอยู่ที่นั่น ปีนั้นเป็นปีที่ จ.ราชบุรี เกิดน้ำท่วมหนัก หน่วยงานราชการต้องระดมกำลังออกช่วยเหลือชาวบ้านตลอดทั้งวันทั้งคืน ข้าราชการทุกคนรวมทั้งท่านนายอำเภอต้องทำงานอย่างหนัก และยังต้องผจญกับอุปสรรคนานัปการ หลายๆวันเข้าร่างกายก็เริ่มอ่อนล้า จนวันหนึ่งขณะที่นายอำเภอนั่งพัก จู่ๆท่านก็เกิดวูบ หน้ามืดขึ้นมากะทันหัน พยาบาลจึงพาท่านไปนอนพัก

จุดชมวิวบนยอดเขาแก่นจันทร์
พอไปถึงที่พักท่านก็วูบหลับไปทันทีด้วยความอ่อนเพลีย ขณะที่กำลังหลับสนิทท่านก็ฝันเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งร่างกายมอมแมม ผ่ายผอมกำลังนั่งร้องไห้ ดูน่าสงสาร น่าเวทนามาก ท่านจึงตกใจตื่น และเหมือนเป็นอุปาทานที่ยังคงได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กคนนั้นก้องอยู่ในหูตลอดเวลา โดยสามัญสำนึกที่ผ่านประสบการณ์มานาน ทำให้ท่านพอจะรู้ว่าสิ่งที่สัมผัสได้ในฝันน่าจะเป็นนิมิตที่เป็นจริง เด็กหญิงคนนั้นจะต้องรอการช่วยเหลืออยู่ที่ไหนสักแห่ง ท่านจึงวิทยุสั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกค้นหาเด็กคนนั้นทันที ทั้งที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนกันแน่ และขณะเดียวกันท่านนายอำเภอก็พยายามนึกทบทวนเหตุการณ์ในฝันอย่างช้าๆ

แล้วจู่ๆ ท่านก็เห็นภาพของศาลแห่งหนึ่งแว็บเข้ามา เห็นภายในศาลมีรูปปั้นของผู้หญิง ท่านจึงบอกให้เจ้าหน้าที่ทราบ เมื่อเจ้าหน้าที่รู้ว่าภายในศาลมีรูปปั้นของผู้หญิงอยู่ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งจึงพูดว่า "สงสัยจะเป็นศาลเจ้าแม่แก่นจันทร์" แล้วพวกเขาก็รีบเดินทางไปที่ศาลเจ้าแม่ทันที และก็เป็นที่น่าตกใจเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงศาลเขาก็พบกับเด็กผู้หญิงหน้าตามอมแมมนอนขดอยู่ภายในศาลเพียงลำพัง ในสภาพร่างกายผอมโซและมีไข้สูง แพทย์จึงรีบทำการปฐมพยาบาลให้เด็กคนนั้นอย่างเร่งด่วน และยังบอกแก่นายอำเภอด้วยว่า หากเด็กมาถึงมือหมอช้ากว่านี้นิดเดียวจะต้องตายแน่นอน เพราะไม่ได้กินอาหารมาหลายวันแถมยังติดเชื้อจากน้ำดื่ม และหมอเองก็ยังสงสัยว่านายอำเภอรู้ได้อย่างไรว่ามีเด็กติดอยู่ในศาล นายอำเภอก็เล่าไปตามความจริง

หลังจากนั้นราว 2 อาทิตย์ เมื่อระดับน้ำท่วมในตัวเมืองราชบุรีเริ่มลดลง ท่านนายอำเภอก็กลับไปเยี่ยมเด็กคนนั้นอีกครั้ง ซึ่งเด็กก็มีอาการดีขึ้นแล้ว แกเล่าให้นายอำเภอฟังว่าอาศัยอยู่กับยายเพียงสองคน พ่อแม่ตายหมดแล้ว ตอนน้ำท่วมยายได้พามาอาศัยอยู่ที่ศาลเจ้าแม่แล้วยายก็จากไป จากนั้นก็ไม่พบเจอยายอีกเลย แล้วตอนนั้นระดับน้ำบริเวณหน้าศาลเจ้าแม่ก็สูงมาก ไม่มีใครผ่านมาเลย ไม่รู้จะขอให้ใครช่วย มีสิ่งเดียวที่จำได้ เพราะยายบอกไว้ก่อนไปว่า "เจ้าแม่แก่นจันทร์ศักดิ์สิทธิ์มาก ใครเดือดร้อนก็จะนึกถึงท่าน" เด็กหญิงคนนั้นจึงอธิษฐานจิตขอให้เจ้าแม่ช่วย

สิ่งที่เกิดราวปาฏิหาริย์ถ้าไม่ใช่เรื่องอันเกิดจากบุญฤทธิ์ของเจ้าแม่แก่นจันทร์แล้วจะเรียกว่าอะไร และในโลกนี้ก็ยังมีเรื่องราวแปลกๆแบบนี้เกิดขึ้นกับบางคนอยู่เป็นประจำเสียด้วย เขาจึงบอกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมคุ้มครองคนดี เพราะฉะนั้นจงคิดดีและทำดีให้สม่ำเสมอ เมื่อถึงคราวเคราะห์ความดีที่ตนเคยสร้างบวกกับแรงปาฏิหาริย์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรามองไม่เห็นก็จะช่วยให้พ้นภัยได้

ที่มา :
ข้อมูล : สายทิพย์. (2550). เจ้าแม่แก่นจันทร์ ตำนานแห่งเทพเมืองราชบุรี.พลังจิต . [Online]. Available : http://board.palungjit.com/f12/เจ้าแม่แก่นจันทร์-ตำนานแห่งเทพเมืองราชบุรี-83510.html. [2553 กรกฎาคม 27].
ภาพบน : https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj5x2Xmvrmv-vlf60J3i1e5JGJKHQ0zZg6HUgxH3eeuKH9jIeoXG2RJESYR9eAXki4w4IN38xzX_EmR1mOTl37IcVLxg_Mm-FGWcf8vKzQsro9F_egGe3xQckJPgTMH_eNmd8qkZRVHvR8/s1600/Image52.jpg
ภาพล่าง : http://www.idea108.com/images/1150187648/1203324793.jpg


ดูเพิ่มเติม
คลิบวีดีโอ สารคดีที่นี่..ราชบุรี ตอน เจ้าแม่แก่นจันทร์ ตำนานแห่งเทพเมืองราชบุรี

ไม่มีความคิดเห็น: