วัดจันทาราม หรือแต่เดิมเรียกกันว่า วัดหนองตะแคง ซึ่งชาวบ้านเรียกตามชื่อหมู่บ้าน ปัจจุบันตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษม ม.10 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ประวัติการสร้างไม่มีการบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ เพียงแต่มีการเล่าขานสืบต่อกันมาว่า สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2450 ในบริเวณละแวกบ้านหนองตะแคง อยู่ในซอยบ้านบางตาล
ต่อมา พระครูชนัตยาภิรัตน์ เจ้าคณะอำเภอบ้านโป่งในขณะนั้น เห็นว่าวัดอยู่ในซอยลึกไม่สะดวกแก่สาธุชนที่จะเข้าไปบำเพ็ญกุศล ทั้งยังมีเนื้อที่คับแคบ จึงได้หารือ เจ้าอาวาสและชาวบ้าน ต่างก็เห็นชอบที่จะขนย้ายมาสร้างวัดแห่งใหม่ในสถานที่ปัจจุบัน และให้ชื่อว่า "วัดจันทาราม" เมื่อปี พ.ศ.2473
ส่วนพระพุทธรูป "หลวงพ่ออโนทัย" ประวัติความเป็นมานั้นไม่มีการบันทึกวันเวลาอย่างแน่ชัด แต่มีการเล่าสืบต่อกันมา ว่า เดิมที่วัดนางโน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี (ปัจจุบัน คือ วัดมโนธรรมาราม) ได้มีพระพุทธรูปจำนวน 3 องค์ ได้ปรากฏขึ้นที่บริเวณริมแม่น้ำหน้าวัด และหนึ่งในพระพุทธรูปนั้น ได้มาเข้าฝันชาวบ้านหนองตะแคงว่าต้องการมาประดิษฐานอยู่ที่วัดจันทาราม
จากนั้นพระอาจารย์แดง เหล็กดี เจ้าอาวาสวัดจันทาราม และชาวบ้าน ได้พากันเดินทางไปนิมนต์หลวงพ่ออโนทัย เมื่อไปถึงปรากฏ ชาวบ้านอีกหลายหมู่บ้าน ที่ทราบข่าว ต่างก็มาอัญเชิญหลวงพ่ออโนทัย เพื่อนำไปประดิษฐานยังหมู่บ้านของตนเช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถที่จะยกองค์หลวงพ่อขึ้นจากน้ำได้
พระอาจารย์แดง ได้จุดธูปพร้อมตั้งจิตอธิฐานว่า "ถ้าหากหลวงพ่ออยากไปอยู่ที่วัดจันทารามจริง ดังที่เข้าฝันชาวบ้านก็ขอให้ยกท่านขึ้นได้" และเหมือนปาฏิหาริย์ ชาวบ้านสามารถที่จะยกองค์หลวงพ่อขึ้นมาจากน้ำโดยไม่ยากเย็น จากนั้นจึงนิมนต์พระพุทธรูปดังกล่าวเดินทางกลับวัดโดยใช้แพ ล่องมาตามลำน้ำแม่กลอง และนำมาขึ้นเกวียนที่บริเวณบ้านหลวงสิทธิ์เทพการ และเมื่อเดินทางมาถึงที่บริเวณหน้าวัด ล้อเกวียนที่ใช้ขนส่งพระพุทธรูปเกิดหัก ชาวบ้านเชื่อว่าพระพุทธรูปนี้ต้องการจะประดิษฐานอยู่ที่วัดจันทารามนี้จริงๆ
ลุงสุพจน์ ใจมั่น อายุ 55 ปี ประชาสัมพันธ์วัดจันทาราม เป็นอีกผู้หนึ่งที่ทราบเรื่องเล่าขานของหลวงพ่ออโนทัย ว่า หลวงพ่ออโนทัย เป็นพระพุทธรูปแบบสมัยอยุธยาตอนต้น แต่เดิมองค์หลวงพ่อเป็นเนื้อศิลาแลง ไม่มีใครรู้ว่าหลวงพ่อมีชื่อว่าอะไร ชาวบ้านจึงขนานนามกันว่า "พระเทพนิมิตร" โดยเริ่มแรกชาวบ้านได้ประดิษฐานหลวงพ่อในอุโบสถ (บริเวณเมรุในปัจจุบัน) คู่กับหลวงพ่อขาว ต่อมาได้ย้ายหลวงพ่อ ประดิษฐาน ณ ศาลใต้ต้นตะคร้อด้านหน้าวัด (บริเวณน้ำพุในปัจจุบัน) เพื่อชาวบ้านจะได้กราบไหว้บูชาง่ายขึ้น
แม้จะมีขโมยแอบมาโจรกรรมองค์พระและตู้บริจาคเงินหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถที่จะเอาออกไปจากเขตรั้ววัดได้แม้แต่ครั้งเดียว ในสมัยพระครูพิศาลธรรมาภรณ์ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างวิหารหลวงพ่อ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2534 โดยมีพระเทพนิมิต หลวงพ่อขาว และหลวงพ่อเงิน ประดิษฐานอยู่ภายใน ต่อมา มีซินแสเป็นชาวจีนในร่างทรงของเจ้าพ่อเสือ ได้มาเข้าทรงและเปิดเผยว่าที่จริงแล้วหลวงพ่อพระเทพนิมิตนี้ มีชื่อว่า หลวงพ่ออโนทัย ดังนั้นชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อวิหารดังกล่าวว่า วิหารหลวงพ่ออโนทัย และชาวบ้านหนองตะแคง จึงเรียกชื่อว่า "หลวงพ่ออโนทัย" นับแต่นั้นเป็นต้นมา
ชาวบ้านเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวง พ่ออโนทัย ที่ปรากฏอยู่หลากหลายเรื่อง ทั้งด้านธุรกิจค้าขาย การเจ็บป่วย การเรียน การสมัครงาน อีกทั้งเรื่องคู่รักคู่ครอง สร้างศรัทธาให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ต่างมากราบไหว้บนบานอธิษฐานหลวงพ่ออโนทัย ให้สัมฤทธิผลดังที่ใจหมาย
เมื่อได้ผลสำเร็จดังที่ตั้งใจไว้แล้ว ในส่วนของที่จะนำมาแก้บน นอกจากจะเป็นไข่ต้ม ผลไม้ต่างๆ แล้ว ที่จะขาดเสียมิได้ คือ การฉายหนังกลางแปลงแก้บน เรียกได้ว่าแทบจะทุกคืน จนเป็นที่เคยชินของชาวบ้านหนองตะแคงไปเสียแล้วว่าถ้าคืนไหนไม่ได้ยินเสียง ไม่มีการฉายหนัง คล้ายกับว่าขาดสิ่งใดไปบางประการ
ที่มาข้อมูล
ที่มาภาพ : http://www.thailandholidayclub.com/index.php?topic=1271.90
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น