นอกเหนือพระปรางค์องค์เก่าแก่แล้ว ภายในวัดมหาธาตุยังคงมีสิ่งที่น่าสนใจและสร้างความประหลาดใจต่อผู้พบเห็น ภายในวัดบริเวณหน้าพระปรางค์จะมีวิหาร จำนวน 5 หลัง แต่ละหลังจะมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยนั้งหันพระปฤษฎางค์หรือนั่งหันหลังชนกัน โดยเฉพาะวิหารที่อยู่ตรงด้านหน้าพระปรางค์ พระพุทธรูปสององค์ หรือที่เรียกกันว่าหลวงพ่อมงคลบุรีและพระศรีนัคร์ จะเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นแกนเป็นหินทรายสีแดง มีขนาดใหญ่และมีขนาดเท่ากันทั้งสององค์ ในขณะที่พระพุทธรูปในวิหารหลังอื่นอีก 4 หลัง จะมีขนาดเล็กองค์หนึ่งและใหญ่องค์หนึ่ง
หลวงพ่อมงคลบุรี และพระศรีนัคร์ |
พระพุทธรูปนั่งหันหลังชนกันเหล่านี้ ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง แต่ด้วยลักษณะของพระพุทธรูปทั้งหมดในวิหารแต่ละหลัง จะมีศิลปะแบบพระพุทธรูปสมัยอยุธยา อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 20-22 พระพุทธรูปเหล่านี้คงนำมาจากวัดอื่นๆ ที่เป็นวัดร้างอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับวัดมหาธาตุ และคงเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยา แต่ได้กลายสภาพเป็นวัดร้าง
ในภายหลังเมื่อนำพระพุทธรูปมาประดิษฐานที่วัดมหาธาตุแล้ว ทำไมถึงต้องประดิษฐานให้พระพุทธรูปสององค์ให้นั่งหันหลังชนกันนั้น ก็ไม่ปรากฏมูลเหตุแน่ชัด อาจจะเป็นความตั้งใจที่ต้องการให้ช่วยปกปักรักษาคุ้มครองบ้านเมืองทั้งสี่ทิศ เนื่องจากช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่บ้านเมืองมีศึกสงครามอยู่บ่อยครั้งก็เป็นได้
นอกจากวัดมหาธาตุที่มีพระนั่งหันหลังชนกันแล้ว ยังเคยปรากฏมีที่วัดบางลี่เจริญธรรม เช่นเดียวกัน พระพุทธรูปด้านหลังพระประธานภายในโบสถ์ แต่เดิมก็นั่งหันหลังทั้ง 3 องค์ เพิ่งมานั่งหันหน้าตามประธาน ในช่วงปี พ.ศ. 2518-2519 นี่เอง
ดูภาพชุดหลวงพ่อมงคลบุรี งานประจำปีวัดมหาธาตุ 2554
ที่มาข้อมูล
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี. (2554). พระนั่งหันหลังชนกันที่วัดมหาธาตุ. ราชบุรีที่คุณยังไม่รู้. นิทรรศการหมุนเวียนในงานกาชาดเที่ยวราชบุุรี ปี 2554.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น